ความเกี่ยวข้องระหว่างจำนวนการฝึกหัดข้างในรวมทั้งข้างนอก luciaone ในนักกีฬาบอลมีความเกี่ยวเนื่องกันยังไง
Marco Montini, Alessandro Fonte
สำหรับเพื่อการจัดแจงจำนวนการฝึกหัด luciaone การตำหนิดตามจำนวนความหนักของการฝึกหัดนั้นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องให้ความเอาใจใส่มากมายก่ายกอง เป้าประสงค์ของการเล่าเรียนความข้องเกี่ยวระหว่างโหลดของการฝึกฝนแบบด้านในรวมทั้งข้างนอก ที่มีผลต่อนักกีฬา แล้วก็การจัดการจัดแจงจำนวนการฝึกฝนสำหรับนักกีฬา ในการพัฒนาสมรรถภาพทางด้านร่างกายของนักกีฬาบอล
แน่ๆว่าเป้าประสงค์ของการจัดการจำนวน และก็ความหนักของการฝึกฝนนั้น จะเป็นเรื่องจำเป็นที่สามารถจะช่วยกระตุ้นความรู้ความเข้าใจแล้วก็สมรรถนะ ของนักกีฬา การวัดแล้วก็การต่อว่าดตามจำนวนการฝึกฝนที่มีความเที่ยงตรง ก็เลยเป็นส่วนประกอบที่มีความหมายต่อการฝึกหัด โดยเป็นที่เข้าใจกันดีว่า จำนวนการฝึกฝนนั้นพวกเราจะแบ่งได้สองส่วนประกอบสำคัญเป็น
1. โหลดข้างใน (Internal Training Load : ITL) คือ จำนวนโหลดที่มีผลจากด้านในตัวนักกีฬาเอง อาทิเช่น ต้นเหตุทางด้าน จิตใจ ผลพวงต่ออารมณ์ หรือมีเหตุมาจากโปรแกรมการฝึกหัดที่พวกเราใส่ลงไป แล้วนักกีฬาแสดงออกมา สิ่งซึ่งก็คือ การที่นักกีฬามีการสนองตอบ หรือ รับโหลดที่มากระทบต่อตัวของเขานั่นเอง
2. โหลดด้านนอก (External Training Load: ETL) หมายความว่าจำนวนโหลดอะไรก็แล้วแต่ที่มีผลต่อนักกีฬาที่จะจำต้องฝึกหัด อาทิเช่น โปรแกรมของผู้ฝึก, การประลอง, ตารางการฝึกหัด ฯลฯ ในการศึกษาเรียนรู้นี้ใช้การวัดด้วยเครื่องใช้ไม้สอย GPS Tracker, GPEXE
ดังเช่นว่า ผู้ฝึกสอนออกโปรแกรมให้กับนักกีฬาคนนึง โหลดข้างนอกก็คือ โปรแกรมที่ผู้ฝึกสอนออกให้ เมื่อนักกีฬา
มีการทำโปรแกรม มันก็คือกำเนิดความอ่อนเพลียขึ้น มีการเปลี่ยนของระบบสรีรวิทยาของร่างกายที่เกิดในตัวของนักกีฬา นี่เป็น โหลดด้านใน ITL ซึ่งนักกีฬาแต่ละคนก็จะมีความรู้และความเข้าใจสำหรับในการรับจำนวนการฝึกฝน หรือ โหลด ได้แตกต่างกันนั่นเอง แล้วก็ถ้าหากนักกีฬามีภาวะจิตใจที่ห่วย กำเนิดความตึงเครียด ความไม่ค่อยสบายใจ ถ้านักกีฬาไม่สามารถที่จะจัดแจงปรับแต่งได้ โหลดข้างใน ก็จะบวกมากขึ้นอีก ตามหลักของความไม่เหมือนระหว่างบุคคล (Individual Difference) จำนวนโหลดข้างในตัวของนักกีฬาจะมีความต่างกันระหว่างบุคคล ประสบการณ์ เคล็ดลับ องค์วิชาความรู้ ด้วย เมื่อบวกกับโหลดข้างนอกที่ได้รับ นักกีฬาจะมีความรู้และมีความเข้าใจจัดแจงรวมทั้งรองรับโหลดข้างนอกได้ต่างๆนาๆแต่ละบุคคล ด้วยเหตุดังกล่าวแนวทางสำหรับเพื่อการติดตามจำนวนโหลดสำหรับในการฝึกหัดก็เลยมีความจำเป็นเป็นอันมาก
โหลดด้านนอกนั้น สำหรับกีฬาบอล แน่ๆว่า ก็จะเป็นการวัดจำนวนการฝึกหัด ที่นิยมใช้กันมาก็เป็น การประมาณระยะทางที่ทำเป็น อัตรารีบ อัตราการเต้นของหัวใจ และก็นำค่าต่างๆพวกนั้นมาคำนวณเป็นพลังงาน (Energy Expenditure: EE) ที่ใช้ไปสำหรับในการฝึกแต่ละเซสชั่น สำหรับจำนวนการฝึกฝนหรือโหลดด้านในนั้น พวกเราสามารถใช้จำนวนความเหนื่อยอ่อนสัมพัทธ์ s-RPE (Session RPE) ที่สามารถใช้วัดจำนวนความอ่อนแรงจากนักกีฬา แล้วก็สนองตอบต่อการฝึกหัดที่จำนวนความหนักไม่คงเดิม รวมทั้งกีฬาที่เล่นเป็นทีม
งานวิจัยชิ้นนี้ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกสำหรับการที่จะวัดจำนวนความหนักในการฝึกหัดสำหรับกีฬาบอล รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลสำหรับเพื่อการพินิจพิจารณาข้อมูลจำนวน โหลดสำหรับการซ้อมของนักกีฬา ซึ่งข้อสมมตินั้น ใช้การมองการเพิ่มขึ้นของความชันของแผนภูมิความเชื่อมโยงระหว่าง ITL/ETL สำหรับในการมองการพัฒนาของนักกีฬาอีกทั้งทางด้านสมรรถภาพทางด้านร่างกายแล้วก็การปรับตัวแล้วก็การโต้ตอบต่อโหลดของนักกีฬา
วิธีการ
เป็นการทดสอบเพื่อตอบปัญหาของการศึกษาเล่าเรียน : ซึ่งเป็นการศึกษาเล่าเรียนความเกี่ยวพันเฉพาะตัว ต่อจำนวนโหลดการฝึกฝนข้างใน แล้วก็ข้างนอก (s-RPE รวมทั้ง EE) ในนักกีฬาบอลอาชีพ โดยเป็นการพินิจพิจารณาข้อมูลรายตัว ซึ่งมีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการมองสถานะของสมรรถภาพทางด้านร่างกายและก็การรอคอยงรับโหลดของนักกีฬาโดยเป็นการเก็บข้อมูลจากการฝึกฝนแต่ละเซสชั่นแล้วก็เกมการแข่งขันขั้น ระหว่างกรกฎาคม ถึงกันยายน 2018 กลุ่มของตัวอย่าง: นักกีฬาบอลอาชีพ ในบอล กัลโช่ซีรีส์ A ปริมาณ 19 คน ต่อจากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาจากการฝึกหัดในสนาม แล้วก็เกมการประลองมาพินิจพิจารณา โดยรวมถึง การวอร์มร่างกาย แล้วก็การฝึกหัด แทคติก ข้อมูลที่เอามาพินิจพิจารณานั้นเอามาใส่ความสมาคม รวมทั้งการวิเคราะห์เชิงลดน้อย ระหว่างจำนวนโหลข้างใน รวมทั้งจำนวนโหลดข้างนอก เปรียบระหว่างตอน พรีฤดูกาลและก็อินฤดูกาล พวกเราพินิจพิจารณาทั้งยังสาม Micro cycleตอนพรีฤดูกาลระหว่าง 5 เดือนกรกฎาคม 23 ส.ค. (52 วัน) T1: ขณะ 1 เดือนแรก 5 July – 5Aug T2: 8-20 Aug T3 In Season: 21 Aug – 23rd Sep ซึ่งการต่อว่าดตามจำนวนการฝึกฝนด้านนอก ใช้การวัดจากเครื่องใช้ไม้สอย 20Hz GPS) โดยใช้ความถี่สำหรับในการวัดที่ 18.18 Hz รวมทั้ง S-RPE นั้นจะได้รับจาก ผลจากการคูณระหว่างจำนวนความอ่อนล้าสัมพัทธ์คูณกับช่วงเวลาสำหรับเพื่อการซ้อม เป็นนาที
ซึ่งผลการศึกษาวิจัยพบว่า
ค่าถัวเฉลี่ยของความชัน ในตอน first (T1), second (T2) and third (T3) micro-cycles y=0.04849 y= 0.0636 and y=0.0727. ความชันที่เกิดขึ้น ระหว่าง พลังงานที่ใช้ กับ s-RPE นั้นพบว่าค่าความชันมีค่ามากขึ้น เป็นลำดับ ถ้านักกีฬาทั้งคู่คนนั้นมีค่าจำนวนการฝึกหัดข้างนอกที่ใกล้เคียงกัน แม้กระนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความต่างกันถึงระดับความอ่อนแรงที่ต่างกัน (2,7,8) ถ้าเกิดนักกีฬาสองคนหรูหราความฟิตที่ต่างกัน รวมทั้งได้รับโหลดจากโปรแกรมการฝึกหัดเดียวกัน นักกีฬาทั้งคู่คนก็จะสนองตอบต่อโปรแกรมสำหรับในการฝึกหัดได้ไม่เหมือนกัน (4,15) ความชันของแผนภูมินั้นยังขึ้นกับระดับความฟิตของนักกีฬาด้วย ยิ่งถ้าเกิดนักกีฬามีความฟิตมากขึ้น T3 (In Season) ค่าความชันของนักกีฬา จากแผนภูมิ s-RPE/ kJ·kg⁻¹ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ข้อมูลที่ได้รับมาจาก s-RPE กับ พลังงานที่ใช้ไปมีความเชื่อมโยงกันนคงจะมีต้นเหตุมาจากการพัฒนาขึ้นของความสามารถนักกีฬานั่นเอง
ในการนำ ไปปรับใช้ นั้นพบว่าข้อมูลเชิงลึก อีกทั้ง การรับทราบ แล้วก็ การประมาณข้อมูลความจำเป็นของนักกีฬาด้วยวัสดุอุปกรณ์ GPEXE นั้นจะก่อให้ได้ข้อมูลการตำหนิดตามจำนวนการฝึกฝนให้มีความเหมาะสม มากมาย เพิ่มขึ้น สิ่งหนึ่งที่พวกเราสามารถเห็นได้จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยในครั้งนี้มันก็คือ แนวทางการสำหรับในการคำนวณหาจำนวนการฝึกฝนข้างนอก ที่ใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจาก ระยะทาง อัตรารีบ รวมทั้งการคำนวณ metabolic Power นั้นข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลที่มีความน่าไว้วางใจสำหรับในการประเมินโหลดข้างนอก และก็ยังมีความใกล้เคียงกันกับจำนวนโหลดด้านในที่นักกีฬาได้รับจากการคำนวณด้วย S-RPE นั่นเอง
No Comment