ก่อนที่จะถึงตัวจังหวัด ฟ้าก็เริ่มมืดลงทุกที เพื่อนๆต่างพากันนอนพักผ่อน ดิฉันก็เล่นโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยเปลื่อยแต่รถก็ค่อย ๆ หยุดลง ข้างหน้าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น รถติดยาว และรถของเราก็ได้ขับผ่าน ได้เห็นอุบัติเหตุ รถเก๋งกับรถมอเตอร์ไซค์ชนกัน คนขับรถมอเตอร์ไซค์ โดนรถที่ขับตามมา เหยียบซ้ำ เหยียบไปครึ่งศรีษะ สมองไหล เป็นภาพที่สยด สยองมาก แต่ที่ผิดสังเกตไปกว่านั้นเราเห็นคนยืนใต้ต้นไม้ กำลังมองมาที่อุบัติเหตุ คนที่มองมาเหมือนคนขับมอเตอร์ไซค์มาก เราคิดว่าคงใช้แล้วละ ตอนนั้นเราไม่กล้าบอกใครว่าเราเห็น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ข่มตาให้หลับ เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด lynbet
ในที่สุดรถก็เข้ามาถึงตัวเมือง เราได้แวะซื้อของกัน ข้างทาง เพื่อนๆก็เห็นดิฉันทำหน้าไม่ดีไม่สบายใจ ก็พากันถามว่าเป็นอะไรหรือป่าว ดิฉันก็เลยบอกไม่มีอะไรหลอก ปวดหัวนิดหน่อย ไม่อยากทำให้เพื่อนไม่สบายใจ ในขนะนั้นเอง ดิฉันได้เห็นเหมือน พี่น้องแฝดในกลุ่ม ทั้ง 2 คน ไม่มีศรีษะ เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด lynbet ดิฉันตกใจ ทรุดลงไปกับพื้น ตกใจกับภาพที่ได้เห็น ดิฉันเริ่มรู้สึกไม่ดี เลยขอไปนอนพักบนรถตู้ก่อน ทุกคนรีบซื้อของแล้วขึ้นรถตู้ เพราะเริ่มรู้สึกไม่ดีกันแล้ว ในขณะที่กำลังขับไปที่พักนั้น ก็ได้คุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงคนขับตู้ก็บอกว่า รู้สึกไม่ดีตั้งแต่ขับเข้าจังหวัดแล้ว เหมือนมีอะไรสักอย่าง (ลุงคนขับรถตู้ เหมือนเป็นคนมีเซ้นส์เรื่องพวกนี้) เราเลยคุยกันว่ากลับกันก่อนไหม หลังเทศกาล ค่อยมาทำงานใหม่ แต่พี่หัวหน้าก็บอกว่ามาขนาดนี้แล้ว จะกลับทำไม อีกอย่างก็ใกล้ถึงที่พักแล้วด้วย หัวหน้ายังบอกอีกว่า วันนี้คงนั่งรถเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับที่พักไปพักกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน สรุปเราจึงเดินทางกันต่อ
ทางเข้าที่พักของเรานั้น สองข้างทางมืดมาก แล้วไม่มีบ้านคนอยุ่แถวนั้นเลย บ้านที่เราพักอยุ่ในซอยเปลียว เรามาตามบ้านพักตามแผนที่ แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ มันก็ดึกมากแล้วด้วย เพื่อนทุกคนภายในกลุ่มก็กังวลกัน จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งเราเลยจอดถามทางว่า ที่พักของเรานั้นไปทางนั้น ในขนะที่เราบอกชื่อที่พักนั้น ชาวบ้านก็ทำสีหน้าแปลก ๆ แล้วเอามือชี้ไปทางซ้าย บอกเลย 3 แยกไปก่อน บ้านพักอยู่ในซอยขวามือ แหละเราก็ขับตามที่ชาวบ้านบอกไป พวกเราทั้งหมดก็ตกใจกัน เมื่อกี้เราก็ผ่านตรงนี้มาแล้ว ทำไมไม่เจอ น้องในกลุ่มเริ่มสีหน้าไม่ดี เหมือนจะร้องไห้ บอกพี่หัวหน้า หนูไม่อยากพักที่นี้แล้ว รู้สึกไม่ดี แต่หัวหน้าก็ยืนยันคำเดิมว่าเรามาถึงที่นี้แล้ว เราคงต้องเข้าพักแล้วรถตู้ก็ได้มาจอดหน้าบ้าน เราก็พากันยกของ ลงจากรถเพื่อเข้าไปเก็บในบ้านขณะที่เดินเข้าบ้านเราสังเกตได้ว่า บ้านนี้เพิ่งถูก ตัดต้นหญ้า ทำความสะอาด เหมือนไม่มีคนมาอยุ่ที่นี้นานแล้ว เราก็จัดแจงแยกย้ายกันพักผ่อน เวลานั้นไม่คิดอะไรแล้ว เหนื่อย อยากพักผ่อนมากกว่า บ้านมีทั้งหมด 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนจะอยู่ข้างบนทั้ง 3 ห้อง ใช้ได้ 2 ห้อง อีกห้องหนึ่งเจ้าของบ้าน บอกไว้ ห้องนี้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เจ้าของบ้านได้ล็อกกุญแจห้องไว้ ห้องที่เราพักอยุ่บนชั้น 2 ติดกับห้องที่ล็อกกุญแจไว้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องของพี่น้องฝาแฝด พวกหนุ่ม ๆนอนข้างล่างกัน ทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อนปกติ เราก็อาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าไปทำงานในตัวเมือง
ในขนะที่นอนอยุ่นั้น เราได้ยินเสียงเหมือนได้ยินเสียงคนเดิน อยู่ที่ห้องข้าง ๆ คนลากอะไรสักอย่าง ดิฉันคิดว่าคงโดนหลอกแล้ว เลยพูดในใจบอกว่า พรุ่งนี้ตอนกลับมาจะซื้อน้ำ ซื้อดอกไม้มาถวายให้ ผ่านไปสักพักเสียงเดินก็ค่อยๆหายไป ขณะที่นอนคลิ้มๆ ดิฉันรู้สึกเจ็บที่หน้าอก เหมือนมีคนมาหยีบ พยามที่จะขยับตัว แต่ก็ขยับไม่ได้ ดิฉันจะกลั้นใจฝืนลืมตาขึ้นมา เห็นผู้หญิง ใส่ชุดสีดำ นั่งยอง ๆ บนหน้าอกอยู่ คือตอนนั้นไม่ไหวแล้ว น้ำตาไหล สวดมนต์ ต่างๆให้เค้าไป อย่ามายุ่งกับดิฉัน แต่เค้าก็ไม่ไป เค้าก็นั่งโยกตัวอยู่บนหน้าอก แล้วก็พูดพึมพำ จากนั้นเราก็หมดสติไป มารู้สึกอีกทีได้ยินเสียงเคาะประตู ดิฉันเลยรีบลุกไปเปิดประตูห้องเห็นน้องผู้หญิงที่นอนกับดิฉัน ดิฉันรีบเข้ากอดน้องทัน ดิฉันร้องไห้ อยากจะกลับบ้าน พอเราทำอะไรเสร็จเราก็รีบลงมาข้างล่าง มาคุยกัน เราได้เล่าว่าเราเจออะไรบ้าง พอเราเล่าเสร็จ พีหัวหน้าที่นอนข้างล่างก็บอกว่า เมื่อคืน นอน ๆ อยู่ มองไปที่ข้างบน เห็นเหมือนตาคนมองลงมาที่ข้างล่าง ตาสีแดงกร่ำ พี่หัวหน้าเค้านอนที่ห้องนั่งเล่นซึ้งห้องนั่งเล่น อยู่ตรงกับห้องที่เจ้าของบ้านล็อกห้องไว้ แล้วบนชั้น 2 จะเป็นไม้ พี่เค้ามองทะลุ ช่องไม้ขึ้นไป ทุกคนต่างพากันตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรอยู่ที่ห้องนั้นหรือป่าว เราเลยถามฝาแฝดว่าเจออะไรไหมนางก็บอกไม่เจอหลับสบายดี
ลุงขับรถตู้ ได้เอาเศษหนัง บางอย่างให้ดู ในเศษหนังอันนั้น เขียนเป็นอักขระ ลุงบอกเป็นภาษาเขมร ลุงเจอมันหลังบ้าน พี่หัวหน้าก็บอกว่า งั้นเด่ววันนี้เราไปทำงานกันก่อน เสร็จแล้วรีบไปวัดกัน หลังจากที่เราเคลียร์งานเสร็จ ก็รีบไปวัดกัน เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อทำสีหน้าตกใจ แล้วบอกว่า รู้ไหมเค้าตามพวกเอ็งมาจากบ้าน ยังนั่งรอพวกเอ๊งอยู่ในรถ ทุกคนพากันเครียดหนัก เลยถามว่าหลวงพ่อมีวิธีไหม หลวงบอกเลยบอกว่า เด่วจะช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้วกัน หลวงพ่อได้น้ำมนต์ไปพรมทั่วรถ ก่อนกลับได้แจกสายสิญจน์คนละอัน แล้วบอกว่า ขอให้มีสติ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
กลับสู่หน้าหลัก
No Comment