Asset Class คืออะไร? ศัพท์การลงทุนที่นักลงทุนจะต้องทำความรู้จัก

luciabet ไม่ว่าใครที่ก้าวเข้ามาในโลกการลงทุนแล้วหลังจากนั้นก็จำเป็นต้องเคยรับรู้คำว่า “Asset Class” แต่ว่าคำนี้มันแสดงว่าอะไร? รวมทั้งเกี่ยวกับการลงทุนยังไง? มาร่วมหาคำตอบไปร่วมกันในเนื้อหานี้เลย รับประกันว่าถ้าหากได้ทราบจะคำนี้แล้วคุณจะเข้าดวงใจโลกการลงทุน luciabet ได้มากขึ้นอีกแน่ๆ
Asset Classหมายถึงการจัดกรุ๊ปทรัพย์สินที่มีลักษณะและก็ฐานรากคล้ายกันมาอยู่ในกรุ๊ปเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพคล่อง การเสี่ยง และก็ผลตอบแทน

Asset Class มีกี่จำพวก?

1.เงินสด (Cash)หมายถึงเงินที่อยู่ในลักษณะของสกุลเงิน luciabet ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น เหรียญกษาปณ์ แบงค์ เงินออมแบงค์จำพวกต่างๆโดยในตรงนี้จะรวมถึงรายการเท่ากันเงินสด (Cash equivalents) ด้วย ซึ่งก็คือ เงินทุนในระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ตลอดระยะเวลา อาทิเช่น ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยสถาบันการเงิน

2.ตราสารหนี้สิน (Fixed Income) ตราสารด้านการเงินประเภทหนึ่งที่แสดงถึงการกู้ยืม โดยผู้ถือตราสารหนี้สินจะมีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” หรือ “ผู้ให้กู้” ส่วนผู้ออกตราสารหนี้สินจะมีสถานะเป็น “ลูกหนี้” หรือ “ผู้กู้” เมื่อถึงกำหนด ผู้ถือตราสารหนี้สินจะได้รับเงินต้นคืนพร้อม “ดอก” ที่ได้ผลสำเร็จทดแทนจากการถือตราสารหนี้สิน โดยตราสารหนี้สินในที่นี้ยังรวมถึง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรเทศบาล หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทมากหมายรวมทั้งตราสารตลาดเงินตรา ฯลฯ

3.อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)หมายถึงที่ดินและก็สินทรัพย์ที่ใกล้กับที่ดินซึ่งรวมทั้งส่วนต่อเพิ่มเติมถาวรที่มนุษย์เป็นผู้ผลิตขึ้น ตัวอย่างเช่น บ้าน ตึก อพาร์ทเม้นท์ อาคารชุด อื่นๆอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านี้ยังรวมถึงเจ้าของในความเป็นเจ้าของที่ดินอีกด้วย

4.หุ้น (Stocks) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า ตราสารทุน (Equity) เป็นตราสารที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของบริษัทซึ่งออกโดยบริษัทต่างๆมากมายเพื่อเป็นการระดมเงินลงทุนไปใช้สำหรับเพื่อการดำเนินกิจการ คนที่ถือตราสารทุนจะได้โอกาสได้รับผลตอบแทนจาก “ส่วนต่างของราคา (Capital Gain)” รวมถึงผลตอนแทนจาก “โบนัส (Dividend Yield)”

5.ผลิตภัณฑ์สิ่งของเครื่องใช้ (Commodities) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก ไม่ว่าจะผลิตที่แห่งไหนรวมทั้งผู้ใดกันเป็นผู้สร้างก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของกินของใช้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกใหญ่ๆซึ่งอย่างเช่น Hard Commodity เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ ได้แก่ ถ่านหิน ทอง น้ำมัน ฯลฯ รวมทั้ง Soft Commodity เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการสร้างของคนเรา อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆไม่ว่าจะเป็น ยางพารา ข้าวโพด ข้าวสาลี ฯลฯ

กลับสู่หน้าหลัก